
เสริมคาง

การเสริมคาง เพื่อแก้ไขปัญหาใบหน้า ช่วยให้รูปหน้าได้สัดส่วนมากขึ้น ใบหน้าดูเรียว มีมิติ V-Shape ได้ตามต้องการ โดยการเลือกซิลิโคน
ให้เข้ากับรูปหน้า จะผ่านการตัดสินใจโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และการผลิตซิลิโคนขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อให้รูปทรงรับกับใบหน้าบริเวณคางของ
ลูกค้า ซึ่งรูปทรงและขนาดของซิลิโคนนั้น จะมีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับใบหน้าของลูกค้าแต่ละคน
วิธีการผ่าตัด มี 2 วิธี
1. การเปิดแผลในปาก
การเปิดแผลในช่องปาก จะได้รับความนิยมสูง เพราะไม่ทิ้งรอยแผลเป็นหลังการผ่าตัด ซึ่งบริเวณที่ผ่าตัดคือ ตรงซอกเหงือกกับริมฝีปากล่าง
ความยาวแผลประมาณ 2-3 ซม.
2. การเปิดแผลภายนอก
การเปิดแผลภายนอกบริเวณใต้คาง ซึ่งการผ่าตัดแผลภายนอกได้รับความนิยมน้อย เพราะขนาดแผลใหญ่กว่าการผ่าตัดภายในช่องปาก
และมักจะหลงเหลือ แผลเป็นเอาไว้
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัด
1. งดน้ำงดอาหารทุกชนิด ก่อนการผ่าตัดเป็นเวลา 6 – 8 ชั่วโมง
2. หากมีโรคประจำตัวหรือมีประวัติแพ้ยา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน
3. งดอาหารเสริมทุกชนิดหรือยาที่มีคุณสมบัติเรื่องของการแข็งตัวของเลือด เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์
4. ทานอาหารที่มีประโยชน์ และพักผ่อนให้เพียงพอ
5. งดสูบบุหรี่ และแอลกอฮอล์ เป็นเวลา อย่างน้อย 2 สัปดาห์
การดูแลหลังการผ่าตัด
1. ให้ประคบความเย็น ในช่วง 1 – 3 วันแรก เพื่อลดอาการบวม
2.รับประทานอาหารที่มีความอ่อนนิ่มเคี้ยวง่าย เพื่อลดการกระทบกระเทือนของบาดแผล ไม่ควรออกแรงขบเคี้ยวของเหนียวและของแข็ง
ในช่วง 1-3 เดือน
3.ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำหรือทานอาหารที่ร้อนจัดหรือเย็นจัด อาหารสุกๆ ดิบๆ และของหมักดอง เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อ
4. งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หลังการผ่าตัด 3 สัปดาห์
5. ระมัดระวังการกระทบกระเทือนบริเวณคาง โดยเฉพาะในช่วงเวลา 3-4 สัปดาห์แรก
6. นอนให้ตำแหน่งศีรษะ อยู่ที่ประมาณ 45 องศา สูงกว่าลำตัว 2-3 วันแรก เพื่อลดอาการบวม
7. การทำความสะอาดแผล หากแผลอยู่ใต้คางภายนอก ให้ใช้น้ำเกลือเช็ดล้างแผลอย่างเบามือ จน จากนั้นใช้เบตาดีนทาบริเวณแผลจนทั่ว
หากแผลผ่าตัดในช่องปาก ให้บ้วนปากหลังรับประทานอาหารทุกครั้ง ด้วยน้ำเกลือ
8. รับประทานยา ตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด และให้ครบตามกำหนด หากมีอาการผิดปกติควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
เสริมกราม

การเสริมกราม เพื่อให้ใบหน้าดูชัดได้รูป มีมิติ โครงสร้างใบหน้าด้านข้างชัดเจน เป็นการขยายโครงสร้างของใบหน้าส่วนล่าง ทำให้ไม่ดูเรียวหรือ หน้าตอบจนเกินไป
โดยจะเน้นให้เห็นกระดูกขากรรไกรชัดมากขึ้น ช่วยให้ใบหน้าดูโดดเด่น
วิธีการผ่าตัด มี 2 วิธี
1. การเปิดแผลในช่องปาก
การเปิดแผลในช่องปาก จะได้รับความนิยมสูง เพราะไม่ทิ้งรอยแผลเป็นหลังการผ่าตัด ซึ่งบริเวณที่เปิดแผล คือ ซอกเหงือกด้านหลังฟันกราม
ไปยังมุมกระดูกขากรรไกร ความยาวแผลขึ้นอยู่กับขนาดของซิลิโคนที่ต้องการเสริม
2. การเปิดแผลภายนอก
การเปิดแผลภายนอกบริเวณมุมกรามทั้ง 2 ข้าง ซึ่งการผ่าตัดแผลภายนอกได้รับความนิยมน้อย เพราะมักจะหลงเหลือแผลเป็นเอาไว้ โดยแพทย์
จะทำการเปิดแผลบริเวณมุมกราม ขนาดแผลขึ้นอยู่กับขนาดของซิลิโคนที่ต้องการเสริม
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัด
1. งดน้ำงดอาหารทุกชนิด ก่อนการผ่าตัดเป็นเวลา 6 – 8 ชั่วโมง
2. หากมีโรคประจำตัวหรือมีประวัติแพ้ยา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน
3. งดอาหารเสริมทุกชนิดหรือยาที่มีคุณสมบัติเรื่องของการแข็งตัวของเลือด เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์
4. ทานอาหารที่มีประโยชน์ และพักผ่อนให้เพียงพอ
5. งดสูบบุหรี่ และแอลกอฮอล์ เป็นเวลา อย่างน้อย 2 สัปดาห์
การดูแลการผ่าตัด
1. ให้ประคบความเย็น ในช่วง 1 – 3 วันแรก เพื่อลดอาการบวม
2. รับประทานอาหารที่มีความอ่อนนิ่มเคี้ยวง่าย เพื่อลดการกระทบกระเทือนของบาดแผล ไม่ควรออกแรงขบเคี้ยวของเหนียวและของแข็ง
ในช่วง 2-3 สัปดาห์
3. ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำหรือทานอาหารที่ร้อนจัดหรือเย็นจัด อาหารสุกๆ ดิบๆ และของหมักดอง เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อ
4. งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หลังการผ่าตัด 4 สัปดาห์
5. ระมัดระวังการกระทบกระเทือนบริเวณกราม โดยเฉพาะในช่วงเวลา 3-4 สัปดาห์แรก
6. การทำความสะอาดแผล หากแผลอยู่ใต้คางภายนอก ให้ใช้น้ำเกลือเช็ดล้างแผลอย่างเบามือ จน จากนั้นใช้เบตาดีนทาบริเวณแผลจนทั่ว
หากแผลผ่าตัดในช่องปาก ให้บ้วนปากหลังรับประทานอาหารทุกครั้ง ด้วยน้ำเกลือ
7. รับประทานยา ตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด และให้ครบตามกำหนด หากมีอาการผิดปกติควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
ลดมุมกราม

ศัลยกรรมลดมุมกราม คือ การแก้ไขรูปหน้าที่ดูกว้างให้แคบลง โดยการตัดแต่งมุมกระดูกขากรรไกรที่เป็นเหลี่ยม ทำให้รูปหน้าดูเล็กเรียวขึ้น สำหรับบุคคลที่ไม่ชอบรูปหน้าทรงเหลี่ยม หรือหน้ากว้าง CTEC สามารถผลิตเครื่องมือเฉพาะการผ่าตัดกรามของแต่ละบุคคล ที่เรียกว่า Cutting Templates โดยอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความแม่นยำในการผ่าตัด และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีเส้นประสาท ลดความเสี่ยง ต่อการกระทบกระเทือนเส้นประสาทขณะทำการผ่าตัด ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการปากชาหลังการผ่าตัดกรามปกติทั่วไป
วิธีการผ่าตัด มี 2 วิธี
1. การเปิดแผลในช่องปาก
การเปิดแผลในช่องปาก จะได้รับความนิยมสูง เพราะไม่ทิ้งรอยแผลเป็นหลังการผ่าตัด ซึ่งบริเวณที่เปิดแผล คือ ซอกเหงือกด้านหลังฟันกรามไป ยังมุมกระดูกขากรรไกร ความยาวแผลขึ้นอยู่กับบริเวณที่ต้องการตัดออก หลังจากนั้นแพทย์จะทำวาง Cutting Template ที่ออกแบบให้พอดี กับบริเวณที่ต้องการผ่าตัดกรามของลูกค้า แล้วใช้เลื่อยขนาดเล็กตัดตาม Cutting Template อย่างระมัดระวัง
2. การเปิดแผลภายนอก
การเปิดแผลภายนอกบริเวณมุมกรามทั้ง 2 ข้าง ซึ่งการผ่าตัดแผลภายนอกได้รับความนิยมน้อย เพราะมักจะหลงเหลือแผลเป็นเอาไว้ โดยแพทย์ จะทำการเปิดแผลบริเวณมุมกราม ขนาดแผลเท่ากับบริเวณที่ต้องการตัดออก หลังจากนั้นแพทย์จะวาง Cutting Template ที่ออกแบบให้พอดีกับบริเวณที่ต้องการผ่าตัดกรามของลูกค้า แล้วใช้เลื่อยขนาดเล็กตัดตาม Cutting Template อย่างระมัดระวัง
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัด
1. งดน้ำงดอาหารทุกชนิด ก่อนการผ่าตัดเป็นเวลา 6 – 8 ชั่วโมง
2. หากมีโรคประจำตัวหรือมีประวัติแพ้ยา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน
3. งดอาหารเสริมทุกชนิดหรือยาที่มีคุณสมบัติเรื่องของการแข็งตัวของเลือด เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์
4. ทานอาหารที่มีประโยชน์ และพักผ่อนให้เพียงพอ
5. งดสูบบุหรี่ และแอลกอฮอล์ เป็นเวลา อย่างน้อย 2 สัปดาห์
การดูแลหลังการผ่าตัด
1. ให้ประคบความเย็น ในช่วง 1 – 3 วันแรก เพื่อลดอาการบวม
2. รับประทานอาหารที่มีความอ่อนนิ่มเคี้ยวง่าย เพื่อลดการกระทบกระเทือนของบาดแผล ไม่ควรออกแรงขบเคี้ยวของเหนียวและของแข็ง
ในช่วง 2-3 สัปดาห์
3. ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำหรือทานอาหารที่ร้อนจัดหรือเย็นจัด อาหารสุกๆ ดิบๆ และของหมักดอง เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อ
4. งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หลังการผ่าตัด 4 สัปดาห์
5. ระมัดระวังการกระทบกระเทือนบริเวณคาง โดยเฉพาะในช่วงเวลา 3-4 สัปดาห์แรก
6. .ต้องใส่ Face Support หลังการผ่าตัด 3-4 วัน และเวลานอนให้นอนหมอนสูง ห้ามนอนคว่ำ เพื่อลดอาการเจ็บปวดและอาการบวม
7. การทำความสะอาดแผล หากแผลอยู่ใต้คางภายนอก ให้ใช้น้ำเกลือเช็ดล้างแผลอย่างเบามือ จน จากนั้นใช้เบตาดีนทาบริเวณแผลจนทั่ว
หากแผลผ่าตัดในช่องปาก ให้บ้วนปากหลังรับประทานอาหารทุกครั้ง ด้วยน้ำเกลือ
8. รับประทานยา ตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด และให้ครบตามกำหนด หากมีอาการผิดปกติควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
เสริมโหนกแก้ม

การผ่าตัดเสริมโหนกแก้ม คือ การที่ใช้วัสดุเสริมบนกระดูกโหนกแก้ม เพื่อให้ใบหน้าดูมีมิติมากยิ่งขึ้น ช่วยให้โหนกแก้มดูไม่ต่ำจนเกินไป
โดยการ เพิ่มความกว้างและความสูงของใบหน้าส่วนกลาง มีจุดดึงดูดสายตา
วิธีการผ่าตัด
1. การเปิดแผลในช่องปาก
การเปิดแผลภายใน แพทย์จะทำการเปิดแผลในปากบริเวณเหนือริมฝีปาก ความยาวแผลประมาณ 2 – 3 ซม.แล้วทำการแยกกล้ามเนื้อที่เกาะ
กระดูกใบหน้า ขึ้นไปจนถึงบริเวณโหนกแก้ม
2. การเปิดแผลภายนอก
การเปิดแผลภายนอกจะเปิดแผลบริเวณใต้ขนตาล่าง ซึ่งจะทำให้แผลเป็นติดกับขนตา โดยแยกกล้ามเนื้อผิวหนังขึ้น เพื่อเข้าไปหารอยต่อของ ขอบกระดูกเบ้าตาแล้วเปิดเยื่อกระดูกโหนกแก้มเพื่อนำซิลิโคนเข้าไปวางบนกระดูกโหนกแก้ม
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัด
1. งดน้ำงดอาหารทุกชนิด ก่อนการผ่าตัดเป็นเวลา 6 – 8 ชั่วโมง
2. หากมีโรคประจำตัวหรือมีประวัติแพ้ยา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน
3. งดอาหารเสริมทุกชนิดหรือยาที่มีคุณสมบัติเรื่องของการแข็งตัวของเลือด เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์
4. ทานอาหารที่มีประโยชน์ และพักผ่อนให้เพียงพอ
5. งดสูบบุหรี่ และแอลกอฮอล์ เป็นเวลา อย่างน้อย 2 สัปดาห์
6. ในกรณีการผ่าตัดเปิดแผลภายนอก ควรเตรียมนำแว่นกันแดดไปด้วย เพื่อใช้อำพรางดวงตาหลังการผ่าตัด
และป้องกันฝุ่นละออง ควรมีผู้ขับรถให้ เพราะหลังการผ่าตัดจะยังใช้สายตาได้ไม่สะดวกนัก จึงไม่ควรขับรถเอง
การดูแลหลังการผ่าตัด
1. ควรประคบเย็นช่วง 2 วันแรกหลังจากผ่าตัด หลังจากนั้นประคบอุ่นกับเย็นสลับกัน
2. หลังผ่าตัดควรนอนหมอนสูง เพื่อลดอาการบวม
3. รับประทานอาหารที่มีความอ่อนนิ่มเคี้ยวง่าย เพื่อลดการกระทบกระเทือนของบาดแผล ไม่ควรออกแรงขบเคี้ยวของเหนียวและของแข็ง
ในช่วง 1-2 เดือน
4. ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำหรือทานอาหารที่ร้อนจัดหรือเย็นจัด อาหารสุกๆ ดิบๆ และของหมักดอง เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อ
5. งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หลังการผ่าตัด 3 สัปดาห์
6. ระมัดระวังการกระทบกระเทือนบริเวณโหนกแก้ม โดยเฉพาะในช่วงเวลา 3-4 สัปดาห์แรก
7. การทำความสะอาดแผล หากแผลภายนอก ให้ใช้น้ำเกลือเช็ดล้างแผลอย่างเบามือ จน จากนั้นใช้เบตาดีนทาบริเวณแผลจนทั่ว
หากแผลผ่าตัดในช่องปาก ให้บ้วนปากหลังรับประทานอาหารทุกครั้ง ด้วยน้ำเกลือ
8. รับประทานยา ตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด และให้ครบตามกำหนด หากมีอาการผิดปกติควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
ลดโหนกแก้ม

การผ่าตัดลดขนาดกระดูกโหนกแก้ม เป็นการลดโหนกแก้มที่สูงหรือยื่นออกมามากเกินไป ทำให้ใบหน้าดูหวานขึ้น กระดูกโหนกแก้มเป็นกระดูก
ส่วนที่ไม่มีหน้าที่สำคัญ แต่มีเส้นประสาทควบคุมการขยับเคลื่อนไหวของใบหน้า เพราะฉนั้น จึงต้องทำการผ่าตัดด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างมาก
โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
วิธีการผ่าตัด
วิธีการ คือ เปิดแผลทั้งในช่องปาก และบริเวณไรผมข้างกกหูด้านนอก โดยการเลื่อนเข้าไปจากจุดยึดเกาะเดิม แล้วยึดกระดูกด้วยไทเทเนียมแทน หลังการผ่าตัดสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัด
1. งดน้ำงดอาหารทุกชนิด ก่อนการผ่าตัดเป็นเวลา 6 – 8 ชั่วโมง
2. หากมีโรคประจำตัวหรือมีประวัติแพ้ยา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน
3. งดอาหารเสริมทุกชนิดหรือยาที่มีคุณสมบัติเรื่องของการแข็งตัวของเลือด เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์
4. ทานอาหารที่มีประโยชน์ และพักผ่อนให้เพียงพอ
5. งดสูบบุหรี่ และแอลกอฮอล์ เป็นเวลา อย่างน้อย 2 สัปดาห์
การดูแลหลังการผ่าตัด
1. ให้ประคบความเย็น ในช่วง 1 – 3 วันแรก เพื่อลดอาการบวม
2. รับประทานอาหารที่มีความอ่อนนิ่มเคี้ยวง่าย เพื่อลดการกระทบกระเทือนของบาดแผล ไม่ควรออกแรงขบเคี้ยวของเหนียวและของแข็ง
อย่างน้อย 1 เดือน
3. ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำหรือทานอาหารที่ร้อนจัดหรือเย็นจัด อาหารสุกๆ ดิบๆ และของหมักดอง เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อ
4. งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หลังการผ่าตัด 4 สัปดาห์
5. ระมัดระวังการกระทบกระเทือนบริเวณคาง โดยเฉพาะในช่วงเวลา 3-4 สัปดาห์แรก
6. .งดกิจกรรมที่ส่งผลกระทบกระเทือนต่อแผลผ่าตัด
7. การทำความสะอาดแผล หากแผลอยู่ใต้คางภายนอก ให้ใช้น้ำเกลือเช็ดล้างแผลอย่างเบามือ จน จากนั้นใช้เบตาดีนทาบริเวณแผลจนทั่ว
หากแผลผ่าตัดในช่องปาก ให้บ้วนปากหลังรับประทานอาหารทุกครั้ง ด้วยน้ำเกลือ
8. รับประทานยา ตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด และมาพบแพทย์ตามนัดหมาย
เสริมหน้าผาก

การทำศัลยกรรมหน้าผาก สำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้าผากแบน กว้างหรือแคบเกินไป ตลอดจนหน้าผากไม่เรียบเนียน จะช่วยปรับรูปทรง
ของหน้าผาก ให้มีความโค้งนูน ทำให้ใบหน้าดูมีมิติมากขึ้น ซึ่งขนาดและความโค้งนูนของซิลิโคนจะขึ้นอยู่กับโครงสร้างใบหน้าของแต่ละคน
มีขนาดที่เหมาะสมกับหน้าผาก เพราะซิลิโคนถูกสร้างขึ้นมาจากแบบจำลอง 3 มิติ ที่ผ่านการประเมินความต้องการจากลูกค้า โดยอยู่
ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
วิธีการผ่าตัด
แพทย์ผ่าตัดเปิดแผลที่บริเวณศีรษะห่างจากไรผมประมาณ 3-2 ซม. เปิดแผลยาวประมาณ 4-5 ซม.เลาะหนังศีรษะเท่ากับขนาด
ซิลิโคนที่ต้องการเสริม ใส่แผ่นซิลิโคนเข้าไปบริเวณหน้าผากแล้วเย็บปิดแผล โดยไม่มีการโกนผม
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัด
1. งดน้ำงดอาหารทุกชนิด ก่อนการผ่าตัดเป็นเวลา 6 – 8 ชั่วโมง
2. หากมีโรคประจำตัวหรือมีประวัติแพ้ยา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน
3. งดอาหารเสริมทุกชนิดหรือยาที่มีคุณสมบัติเรื่องของการแข็งตัวของเลือด เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์
4. ทานอาหารที่มีประโยชน์ และพักผ่อนให้เพียงพอ
5. งดสูบบุหรี่ และแอลกอฮอล์ เป็นเวลา อย่างน้อย 2 สัปดาห์
การดูแลหลังการผ่าตัด
1. ให้ประคบเย็นบริเวณหน้าผาก ในช่วง 1 สัปดาห์แรก เพื่อลดอาการบวม
2. ระมัดระวังการกระทบกระเทือนบริเวณหน้าผาก โดยเฉพาะในช่วงเวลา 3-4 สัปดาห์แรก
3. งดกิจกรรมที่ส่งผลกระทบกระเทือนต่อแผลผ่าตัด
4. นอนยกศีรษะสูงๆ เพื่อลดอาการบวม
5. รับประทานยา ตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด และมาพบแพทย์ตามนัดหมาย
